บล็อก
รักมีกี่แบบกันนะ
รักที่สมบูรณ์แบบ ...ใคร ๆ ก็อยากได้รับความรักชนิดนี้กันทั้งนั้น
แต่จะมีสักกี่คนที่จะอธิบายได้ว่า...รักที่สมบูรณ์แบบนั้นมันเป็นเช่นไร?
มนุษย์เราย่อมเคยได้รับ สัมผัสแห่งความรัก มาตั้งแต่แรกเกิด จวบจนเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ผ่านช่วงชีวิตที่หลากหลาย ความรักที่มนุษย์สัมผัสนั้นจึงมีได้หลายรูปแบบ
นักจิตวิทยาท่านหนึ่ง Sternberg (1986-1988) ได้กล่าวไว้ว่า ความรักคือการผสมผสานระหว่างอารมณ์ความรู้สึกระหว่างเสน่หา (passion), ความใกล้ชิดสนิมสนม (Intimate), และความผูกพัน (Commitment) ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกทั้งสามนี้จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของความสัมพันธ์ รวมไปถึงประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ที่ผ่านร้อนหนาวมาไม่เท่ากัน
อารมณ์ความรู้สึกทั้งสามชนิดนี้เอง สามารถทำให้เกิดความรักได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1. ไม่มีความรัก (Non-love)
เป็นความรักที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกทั้ง 3 อย่าง เป็นความรู้สึกที่มีต่อบุคคลทั่วไปที่เราไม่สนิทสนมคุ้นเคย ลองสังเกตคนทั่วไปที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันดูสิ เราคงไม่ได้ผูกพันกับพวกเขาเหล่านั้นหรอก
2. รักฉันท์เพื่อน (Friendship)
มักเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากการใกล้ชิดสนิทสนม (Intimate) หรือชอบพอกันกับเพื่อน คนคุ้นเคย หรือพี่น้องกันนั่นเอง
3. ตกหลุมรัก (Infatuation)
อารมณ์ ความรู้สึกที่เห็นได้ชัดคือ ความเสน่หา (Passion) ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ที่ยากจะลืมเลือน แม้ไม่เห็นหน้าตา แต่เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี
4. รักที่ว่างเปล่า (Empty love)
อาจ ฟังดูน่ากลัว หากแต่หมายความถึงความรู้สึกผูกพัน (Commitment) มากกว่าต้องการเรียกร้องสิ่งใด ขอเพียงรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว พร้อมฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรักรูปแบบอื่นตามมาได้
5. รักหวานแหวว (Romantic love)
เป็นความรักที่มีทั้งความเสน่หา(Passion) และความใกล้ชิดสนิทสนม สามารถพัฒนาไปสู่รักแท้ที่สมบูรณ์แบบได้
6. รักที่โง่เขลา (Fantasy love)
ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ รักที่มีแต่ความเสน่หา (Passion) และตามมาด้วยมีความผูกพันทางกาย หรือมีเพศสัมพันธ์กัน แต่หารู้ไม่ว่าความสัมพันธ์ที่ก้าวกระโดดเช่นนี้ ไม่มีทางยั่งยืนได้
7. รักที่สมบูรณ์แบบ (Complete love)
รักที่มีครบทั้งความเสน่หา (Passion) ความใกล้ชิดสนิทสนม(Intimate) และความผูกพัน(Commitment) เป็นรักที่คนทั่วไปใฝ่หา แต่เกิดขึ้นได้ยาก
ระวีวรรณ ดนัยดุษฎีกุล
อ่านต่อ :http://writer.dek-d.com/paiperka/story/viewlongc.php?id=253995&chapter=1#ixzz1PiTSJxCC
แต่จะมีสักกี่คนที่จะอธิบายได้ว่า...รักที่สมบูรณ์แบบนั้นมันเป็นเช่นไร?
มนุษย์เราย่อมเคยได้รับ สัมผัสแห่งความรัก มาตั้งแต่แรกเกิด จวบจนเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ผ่านช่วงชีวิตที่หลากหลาย ความรักที่มนุษย์สัมผัสนั้นจึงมีได้หลายรูปแบบ
นักจิตวิทยาท่านหนึ่ง Sternberg (1986-1988) ได้กล่าวไว้ว่า ความรักคือการผสมผสานระหว่างอารมณ์ความรู้สึกระหว่างเสน่หา (passion), ความใกล้ชิดสนิมสนม (Intimate), และความผูกพัน (Commitment) ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกทั้งสามนี้จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของความสัมพันธ์ รวมไปถึงประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ที่ผ่านร้อนหนาวมาไม่เท่ากัน
อารมณ์ความรู้สึกทั้งสามชนิดนี้เอง สามารถทำให้เกิดความรักได้หลายรูปแบบ ดังนี้
1. ไม่มีความรัก (Non-love)
เป็นความรักที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกทั้ง 3 อย่าง เป็นความรู้สึกที่มีต่อบุคคลทั่วไปที่เราไม่สนิทสนมคุ้นเคย ลองสังเกตคนทั่วไปที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันดูสิ เราคงไม่ได้ผูกพันกับพวกเขาเหล่านั้นหรอก
2. รักฉันท์เพื่อน (Friendship)
มักเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากการใกล้ชิดสนิทสนม (Intimate) หรือชอบพอกันกับเพื่อน คนคุ้นเคย หรือพี่น้องกันนั่นเอง
3. ตกหลุมรัก (Infatuation)
อารมณ์ ความรู้สึกที่เห็นได้ชัดคือ ความเสน่หา (Passion) ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ที่ยากจะลืมเลือน แม้ไม่เห็นหน้าตา แต่เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี
4. รักที่ว่างเปล่า (Empty love)
อาจ ฟังดูน่ากลัว หากแต่หมายความถึงความรู้สึกผูกพัน (Commitment) มากกว่าต้องการเรียกร้องสิ่งใด ขอเพียงรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว พร้อมฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรักรูปแบบอื่นตามมาได้
5. รักหวานแหวว (Romantic love)
เป็นความรักที่มีทั้งความเสน่หา(Passion) และความใกล้ชิดสนิทสนม สามารถพัฒนาไปสู่รักแท้ที่สมบูรณ์แบบได้
6. รักที่โง่เขลา (Fantasy love)
ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ รักที่มีแต่ความเสน่หา (Passion) และตามมาด้วยมีความผูกพันทางกาย หรือมีเพศสัมพันธ์กัน แต่หารู้ไม่ว่าความสัมพันธ์ที่ก้าวกระโดดเช่นนี้ ไม่มีทางยั่งยืนได้
7. รักที่สมบูรณ์แบบ (Complete love)
รักที่มีครบทั้งความเสน่หา (Passion) ความใกล้ชิดสนิทสนม(Intimate) และความผูกพัน(Commitment) เป็นรักที่คนทั่วไปใฝ่หา แต่เกิดขึ้นได้ยาก
ระวีวรรณ ดนัยดุษฎีกุล
อ่านต่อ :http://writer.dek-d.com/paiperka/story/viewlongc.php?id=253995&chapter=1#ixzz1PiTSJxCC
