มุมมองของแต่ละคนที่มีต่อพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจจะต่างกันไปตามแต่จิตแต่ใจ บางคนก็ไม่เชื่อในพระเจ้า บางคนก็เชื่อว่าพระเจ้าใจดีมีเมตตา บางคนก็เชื่อว่าพระเจ้าคือผู้ลงทัณฑ์
Azim F. Shariff แห่งมหาวิทยาลัยโอเรกอน และ Ara Norenzayan แห่งมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ได้ทำการทดลองเพื่อดูว่ามุมมองที่มีต่อพระเจ้ามีอิทธิพลต่อความซื่อสัตย์ของเราอย่างไร
การทดลองแรก นักวิจัยให้ผู้เข้าร่วมที่เป็นนักศึกษา 61 คน ทำข้อสอบคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นข้อสอบที่ง่ายๆ แต่ว่าต้องคิดยุ่งยากหลายขั้นตอน นักวิจัยบอกกับผู้เข้าร่วมทดสอบว่าซอฟท์แวร์ข้อสอบมีปัญหาเล็กน้อย หากไม่กด space bar ตรงคีย์บอร์ดหลังจากที่คำถามแต่ละข้อโผล่ขึ้น สักพักคำตอบจะปรากฏขึ้นมาเอง ดังนั้นนักวิจัยจึง "ขอร้อง" ให้ผู้เข้าร่วมกด space bar ด้วย หลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องแบบสอบถามว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับพระเจ้า
การทดลองที่สอง ผู้เข้าร่วมที่เป็นนักศึกษา 39 คนถูกเรียกมาทำแบบทดสอบเกี่ยวกับมุมมองที่เขามีต่อเรื่องต่างๆ ก่อน ผลของแบบทดสอบจะถูกนำมาวิเคราะห์ว่าผู้เข้าร่วมแต่ละคนคิดอย่างไรกับพระเจ้า จากนั้นพวกเขาก็จะต้องทำข้อสอบคณิตศาสตร์แบบเดียวกับการทดลองแรก และพวกเขาก็ถูกขอร้องให้กด space bar เหมือนกัน
นักวิจัยทั้งสองคนแอบบันทึกการกด space bar ของผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนเอาไว้โดยที่ผู้เข้าร่วมไม่รู้ตัว จากนั้นก็เอาไปหาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนครั้งที่กด space bar กับความเชื่อที่แต่ละคนมีต่อพระเจ้า
ผลการทดลองทั้งสองอันปรากฏไปในทางเดียวกันว่า กลุ่มนักศึกษาที่ไม่เชื่อในพระเจ้ากับนักศึกษาที่เชื่อในพระเจ้ามีอัตราการโกง (ไม่ยอมกด space bar) พอๆ กัน แต่ในกลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า คนที่เชื่อว่าพระเจ้าใจดีมีเมตตาและชอบใหอภัย เลือกที่จะโกงข้อสอบด้วยการไม่กด space bar มากกว่าคนที่เชื่อว่าพระเจ้าเข้มงวดและชอบลงโทษมนุษย์
แม้ว่าการทดลองนี้จะให้ผลแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็เป็นเพียงการทดสอบในเรื่องการโกงข้อสอบเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแถมยังเป็นข้อสอบที่เอื้อให้โกงอีกต่างหาก ไม่ได้รวมถึงการโกงประเภทอื่นๆ ผลการทดลองนี้จึงเป็นเพียงหลักฐานเบื้องต้นที่ทำให้นักจิตวิทยาสามารถเริ่มอธิบายถึงความจำเป็นของการใช้ความเชื่อทางศาสนามาควบคุมศีลธรรมในสังคมมนุษย์
ที่มา - Medical Xpress
รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|ดิสคัส ไทย Follow us:
GMT+7, 2024-6-13 19:54