ไอ
ซีทีขานรับกระแสอินเทอร์เน็ตโลกถึงจุดเปลี่ยน ผนึกหน่วยงานภาครัฐ
เอกชนทดสอบใช้ไอพีวี 6 พร้อมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
ระบุเป็นการอัพเกรดระบบอินเทอร์เน็ตโลกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี
เผยไทยตื่นตัวใช้งานติดอันดับ 7 เอเชีย
ระบุผู้ผลิตอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีคลาวด์
คอมพิวติ้งมีโอกาสแจ้งเกิด นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ
รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวหลังสัมมนา
”ก้าวสู่จุดเปลี่ยนไอพีวี 6ประเทศไทย” วานนี้ (9 มิ.ย.)
ว่าไอซีทีได้ร่วมกับภาครัฐ เอกชน
รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทดสอบระบบไอพีวี 6
พร้อมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ซึ่งถือเป็นวัน “World IPv6 Day”
เพื่อทดสอบการใช้งานร่วมกันระหว่างไอพีวี4 และไอพีวี6
“สถานการณ์
ของหมายเลขไอพีวี 4 กำลังขาดแคลน
โดยคาดว่าจะเกิดกับภูมิภาคเอเชียเป็นภูมิภาคแรกของโลกในเร็วๆ นี้
และสร้างปัญหาต่อการขยายตัวของอินเทอร์เน็ต ทำให้การขับเคลื่อน
ให้เกิดการใช้งานไอพีวี 6 อย่างเป็นรูปธรรมเป็นเรื่องเร่งด่วน
ผลที่ได้รับวันนี้จะนำไปสู่การวางแผนเพื่อเตรียมตัวและดำเนินการเพื่อการใช้
งานต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ การวางแผนเพื่อเตรียมตัว
และดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อการใช้งานไอพีวี6 ภายในปี 2554 และปี 2555
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ
เพื่อให้ธุรกิจและบริการสามารถดำเนินต่อไปในอนาคตได้
ซึ่งถือเป็นการอัพเกรดอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
นาย
สินชัย กมลภิวงศ์ นายกสมาคมไอพีวี6 ประเทศไทย กล่าวว่า การทดสอบครั้งนี้
ทำร่วมกันเป็นครั้งแรกของโลก โดยไทยได้เริ่มทดสอบตั้งแต่เวลา 7.00 น
ของวันที่ 8 มิ.ย.ถึงเวลา 6.59 น.ของวันที่ 9 มิ.ย รวม 24 ชั่วโมง
หน่วยงานที่เข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ เช่น กระทรวงไอซีที บมจ.ทีโอที บมจ.กสท.
ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายมหาวิทยาลัยภาครัฐ(ยูนิเน็ต) รวมถึงผู้ให้บริการเว็บไซต์ชื่อดัง
เช่น ยาฮู Google และเฟซบุ๊ค
อย่างไรก็ตาม
ก่อนหน้านี้ที่มีการทดสอบไปบ้างแล้ว โดย เว็บเสิร์ช Google
พบว่ามีปัญหาในการใช้เพียง 0.05% แต่ส่งกระทบต่อผู้ใช้งานจำนวน 3 ล้านราย
เป็นเหตุผลว่าทำไมGoogleยังไม่เปลี่ยนไปใช้งานในทันที ขณะที่รายอื่นๆ
นั้นยังไม่มีการรายงานผลออกมา
ประเมินไทยใช้เวลาเตรียม 3ปีเขา
ประเมินว่า ประเทศไทยต้องใช้ระยะเวลาเตรียมความพร้อม 3ปี
โดยเบื้องต้นต้องฝึกอบรมบุคลากรในหน่วยงานไอทีภาครัฐก่อน
เพื่อให้มีความรู้เรื่องไอพีวี6 อย่างน้อย 3,000 คน ส่วนด้านซอฟต์แวร์ เช่น
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า
ต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนด้วย
เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐของไทยพร้อมเข้าสู่การใช้งานได้จริงในปี 2558
นาย
สินชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องบรรจุเรื่องการใช้งานไอพีวี6
เข้าไปเป็นมาตรฐานในข้อกำหนดทางเทคนิค (ทีโออาร์) การจัดซื้อจัดจ้างในทุกๆ
โครงการ แต่ปัจจุบันประเทศไทยนับว่า มีการตื่นตัวการใช้งานพอสมควร
สถิติล่าสุดถึงวันที่ 6 มิ.ย. ติดอันดับที่ 7 ของภูมิภาคเอเชีย
และอันดับที่ 21ของโลก ของประเทศที่มีการขอใช้มากที่สุด
ทั้งนี้
สถิติการใช้งานไอพีวี6 ทั่วโลกมีอยู่ไม่ถึง 1%
อันดับประเทศที่ตื่นตัวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา 2.รัสเซีย
3.เยอรมันนี 4.อินโดนีเซีย 5.ออสเตรเลีย
และหากการเปลี่ยนสามารถทำได้สมบูรณ์จะทำให้หมายเลขไอพี
ที่สามารถใช้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 ยกกำลัง 128 เลขหมาย จากเดิมที่ในไอพีวี4
มีเพียง 2 ยกกำลัง 32 เลขหมาย หรือคิดเป็น 4 พันล้านเลขหมายเท่านั้น
“การ
เปลี่ยนแปลง ต้องใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไปราว 10ปี
หากมองภายในประเทศขณะนี้ยังถือว่าไม่มีความสนใจเท่าที่ควร
มีเพียงในระดับเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่นใน การทรวงไอซีที
และหน่วยงานในสังกัด และภาคเอกชนบางส่วนเท่านั้น
ในการทดสอบครั้งนี้หวังว่าแอพพิเคชั่นและเว็บไซด์ต่างๆจะสามารถทำงานได้เป็น
ปกติ
และหากพบปัญหาเพียงเล็กน้อยนั่นหมายความว่าไทยมีความที่จะเปลี่ยนไปใช้ไอพี
วี 6 แล้ว”
นายสินชัย กล่าวต่อว่าหลังจากนี้ ไอพีวี4 ที่หมดไปแล้ว
จะถูกนำออกมาขายในตลาด ยกตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้
ไมโครซอฟท์ใช้เงินไปกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อไอพีวี4 จำนวน 6
แสนเลขหมาย ไปใช้
และส่งผลให้องค์กรที่ดูแลเรื่องการจัดสรรค์ด้านไอพีเริ่มมีกฎที่เข้มงวดมาก
ขึ้น โดยคนที่ซื้อไปใช้จะไม่สามารถมีสิทธิ์ขาดในการเป็นเจ้าของได้
คาดผู้ใช้งานเน็ตทั่วไปไม่กระทบสำหรับ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของบุคคลทั่วไป
จะไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากความเร็วของทั้งไอพีวี4 และไอพีวี6
ไม่ต่างกันมาก แต่จะมีปัญหากับแอพพลิเคชั่นที่ใช้ร่วมด้วย
ที่จำเป็นต้องรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบปฏิบัติการณ์วินโดว์ส
ต้องเป็น วินโดว์ส เอ็กซ์พี เซอร์วิส แพ็ค2 ขึ้นไป
ส่วนโอกาสทางการ
ตลาด ฮาร์ดแวร์กลุ่มอุปกรณ์ประเภทเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น เราท์เตอร์
และเอดีเอสแอล ไวไฟ จะมีโอกาสเติบโตมากขึ้น ส่วนซอฟต์แวร์ คาดว่า คลาวด์
คอมพิวติ้ง
และบริการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไอพีจะได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน
ขณะ
เดียวกัน หากไทยมี 3จีใช้จริง ไอพีวี6
จะทำให้เกิดรูปแบบการใช้งานที่เป็นโมบายอินเทอร์เน็ตแบบแท้จริง
ด้วยขีดความสามารถที่ทำให้อุปกรณ์ต้นทาง
และปลายทางเชื่อมโยงไอพีหากันได้โดยตรง และไอพีวี6
ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากกว่าไอพีวี4
นายวันฉัตร ผดุงรัตน์
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กล่าวว่า
การลงทุนเปลี่ยนแปลงจะไปตกหนักอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี)
เป็นหลัก ในส่วนของเว็บพันทิป
ได้เริ่มเตรียมด้านพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับไปแล้ว
คาดว่าจะใช้เวลาเพียง 2-6 เดือนก็แล้วเสร็จ
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาด ดอท คอม ผู้ให้บริการเว็บไซต์
www.TARAD.com
กล่าวว่า เว็บตลาดฯ ได้ร่วมทดสอบไอพีวี6 กับ บริษัทอินเทอร์เน็ต ประเทศไทย
หรือไอเน็ต ในครั้งนี้ด้วย
โดยถือเป็นเว็บไซต์ไทยเว็บเดียวที่ร่วมทดสอบกับเว็บไซต์ทั่วโลก
โดยที่ผ่านมา ยังไม่มีภาคเอกชนสนใจนำไอพีวี6 ไปใช้มากนัก
เพราะยังไม่เห็นความจำเป็น
ขณะที่
ไอเอสพีไทยหลายแห่ง ก็ยังไม่เปิดให้บริการไอพีวี6 เพราะต้องลงทุนเพิ่มขึ้น
ทำให้การนำไอพีวี6 มาใช้ในเชิงพาณิชย์ของไทย ยังไม่ตื่นตัวและเติบโตมากนัก