- เครดิต
- 16
- เพื่อน
- ทักทาย
- บล็อก
- อัลบั้ม
- โพสต์
- กระทู้
- แชร์
- สำคัญ
- สิทธิ์อ่าน
- 10
- จำนวนผู้ติดตาม
- จำนวนผู้กำลังติดตาม
- เพศ
- ไม่บอก
|
แก้ไขล่าสุดโดย dekpost เมื่อ 2010-6-11 11:51
& w3 z& X4 {9 p: w/ O9 V$ a8 i+ k, |9 a" ?/ O$ L. q: y+ n3 \ N
: P! [1 ~% X) g
ตอนผมเป็นนักเรียนผมมีชุดนัก เรียนประมาณสองสามชุด และต้องซักต้องรีดทุกวัน การรีดผ้าเป็นหนึ่งกิจวัตรประจำวัน แต่พอผมเรียนมหาวิทยาลัย ชุดหลักๆ ที่ผมใส่คือเสื้อช้อปทับเสื้อกล้ามหรือเสื้อยืด และนุ่งกางเกงยีนส์ อันที่จริงผมก็มีเชิ้ตขาวใส่เป็นชุดนักศึกษาอยู่ประมาณสองตัวแต่ก็เป็นผ้า แบบ (Wrinkle free) คือผ้าที่ไม่ต้องรีด ผมใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่นานโดยลืมการรีดผ้าไปเลย...# Z/ F- D7 ^) f' j$ X9 t. Y
แต่พอถึงวัยทำงาน ผมก็ยังใส่เสื้อช้อปอยู่ ชีวิตผกผันจนมาได้งานใหม่ที่แสนสนุกอันหนึ่ง คือเป็นวิศวกรการแพทย์ (Medical Engineer) ที่บริษัท ญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง เสื้อผ้า หน้า ทรงผมต้องดูน่าเชื่อถือ และผมใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว กิจวัตรการรีดผ้าก็กลับมาเริ่มต้นหัดใหม่กันอีกครั้ง แต่ตอนนั้นผมกลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับผ้าแบบ (Wrinkle free) เหมือนสมัยเรียนมหาลัย เพราะต้องเลือกเลือกชุดที่ดูสวย และน่าภูมิฐานเป็นอันดับแรก แต่เมื่อรีดผ้าจนเนี้ยบเสร็จแล้วไปถึงที่ทำงานเสื้อผ้าก็ยับเหมือนเดิม จนบางครั้งคนที่ทำงานก็ทักว่าไม่ได้รีดผ้ามาทำงานเหรอ เป็นที่ขำขันกันไป.... (.อ่านต่อ.)
5 J8 y8 V. \: I/ v' l+ ~$ q1 x x! i! R( z0 S- k- V! A
ขอบคุณผู้เขียนบทความ : ปรเมศวร์ กุมารบุญ L, B9 Q e) n
เนื้องจากไม่สามารถทำสำเนาทั้งหมดได้ ถ้าอยากอ่านต่อกดเลยนะครับ |
|
|
|
|
|
|