ก.แรงงาน 25 เม.ย. - รมว.แรงงาน เผยไต้หวันต้องการแรงงานในธุรกิจก่อสร้าง อุตสาหกรรม อีก 8,000 อัตรา เตรียมหาทางให้นายจ้างไต้หวันจ้างตรงผ่านกรมการจัดหางาน ลดการเก็บค่าหัวคิว และลดภาษีให้คนงาน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังนายเฮนรี่ เอ็ม.เจ.เซน (H.E.Henry M.J.Chen) ผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป เข้าหารือว่า การหารือครั้งนี้ได้มีการพูดคุยในประเด็นการปรับปรุงระบบการจ้างงานที่ให้จ้างตรงผ่านกรมการจัดหางาน เพื่อให้สามารถควบคุมค่าบริการหรือค่าหัวได้ นอกจากนี้ยังมีการหารือลดค่าประกันที่ไต้หวันได้เรียกเก็บเป็นรายเดือน เดือนละ 1,500-1,800 บาท และภาษีที่คนงานไทยที่ไปทำงานไต้หวันต้องเสียภาษีร้อยละ 20 หากทำงานไม่ถึง 6 เดือน ถือเป็นเงินค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้หารือถึงกรณีที่จะช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง เพราะทำงานเกินระยะเวลาที่สัญญาจ้างกำหนดหรือกรณีที่วีซ่าเข้าเมืองหมดอายุ โดยมีนโยบายที่จะขออภัยโทษให้กับแรงงานกลุ่มดังกล่าว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554  โดยกระทรวงแรงงานจะร่วมกับนักธุรกิจไต้หวันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับ

"ปัญหาแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานไต้หวันนั้นพบว่ายังมีค่าใช้จ่ายรายหัวยังสูงเกินกว่าความเป็นจริง จึงได้ขอความร่วมมือให้ไต้หวันจ้างงานโดยตรงผ่านกรมการจัดหางาน นอกจากนี้ยังพบว่าแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องการดื่มสุรา ซึ่งจะต้องควบคุมคุณภาพแรงงานที่จะไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้นายจ้างมั่นใจและจะทำให้ตลาดแรงงานในต่างประเทศเป็นของเรา" นายเฉลิมชัย กล่าว

ปัจจุบันไต้หวันกำลังต้องการแรงงานต่างชาติเพิ่มเติมในงานภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้าง ประมาณ 8,000 อัตรา เนื่องจากแรงงานจากฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นเจ้าของโควตาเดิม มีปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าหัวคิวแพง ทำให้ถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ถือเป็นโอกาสดีของแรงงานไทย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีแรงานไทยอยู่ในไต้หวันประมาณ 60,000 คน โดยได้รับค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 20,000-25,000 บาท.- สำนักข่าวไทย