แม้ในปัจจุบัน จะเป็นยุคที่ "โน้ตบุ๊คบาง-เบา" ครองเมือง มองไปทางไหน ก็เห็นแต่คนกำลังเลือกซื้อโน้ตบุ๊คที่น้ำหนักเบา ดีไซน์บางๆ แถมพกพาสะดวกกันหมด จนเหมือนกับว่าจะไม่มีผู้ผลิตรายใด หันมาสนใจตอบสนองความต้องการของคนที่ต้องการโน้ตบุ๊คแรงๆ เสียแล้ว

ทว่าค่ายพี่เบิ้มแห่งวงการโน้ตบุ๊คในประเทศไทยอย่าง Acer ก็เล็งเห็นถึง Demand ดังกล่าว เลยจัดหนัก ส่งสุดยอดโน้ตบุ๊คที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ และแรงสะใจเหล่าคอเกมคอหนังไฮ-เดฟออกมาให้ได้ลิ้มลอง ซึ่งโน้ตบุ๊คที่ผมกำลังพูดถึงอยู่ก็คือ Acer Aspire 5950G ที่ทุกท่านกำลังจะได้อ่านบทรีวิวนั่นเอง

Design:

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้นว่า "ดีไซน์โดดเด่น" ซึ่งหากคุณได้ลองดูจากรูปประกอบ ก็เชื่อว่าคงคิดไม่ต่างกันมากนัก จากที่เห็นหากไม่ติดโลโก้ Acer เอาไว้ คงทำให้หลายๆ คนพาลคิดไปว่า "นี่มันโน้ตบุ๊คยี่ห้อใหม่ ที่เพิ่งนำเข้ามาขายในเมืองไทย" เป็นแน่

เริ่มกันตั้งแต่ฝาหลัง ที่ Acer เลือกใช้โทนสีเงินทั้งแผ่น ทำให้มันดูหรูขึ้นไปอีกระดับ ตรงกลางของฝาหลังมีโลโก้ Acer ปั๊มนูนอยู่ ทำให้รู้ได้ทันทีว่า "โน้ตบุ๊ค Acer ไม่ผิดแน่" วัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตฝาหลัง เป็นอลูมิเนียมผสมนะครับ ไม่ใช่พลาสติกธรรมดาๆ ทั่วไป

ไปต่อกันที่เรื่องของแกนพับ จากการเปิดหน้าจอขึ้นมา ผมบอกได้เลยว่า Acer ให้ความสำคัญกับส่วนของแกนพับค่อนข้างดี เพราะจากการเปิดด้วยมือเพียงข้างเดียว ก็สามารถเปิดได้ครับ ไม่ต้องใช้มืออีกข้างช่วยกดส่วนของแป้นคีย์บอร์ดเอาไว้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ในส่วนของแกนพับ ดูจะแข็งแรงพอสมควร ซึ่งอาจเป็นเพราะขนาดหน้าจอและตัวเครื่องที่ต้องบอกว่า "ค่อนข้างใหญ่" แต่มันก็สมกับเป็นโน้ตบุ๊คสำหรับคอบันเทิงเช่นกัน สำหรับส่วนของปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง จะติดตั้งเอาไว้บริเวณแกนกลางตัวเครื่อง ซึ่งเป็นปุ่มขนาดค่อนข้างใหญ่ สมกับตัวเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องเอาไว้ จะมีไฟสีฟ้าปรากฏขึ้นครับ

Screen:

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ของ Aspire 5950G ทำให้มันต้องถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Desktop Replacement หรือโน้ตบุ๊คที่เหมาะสำหรับนำไปใช้แทนเดสก์ทอป มากกว่าจะเน้นในเรื่องของการพกพาไปใช้นอกสถานที่

ส่วนของหน้าจอนั้น เป็นจอ LCD ที่มีหลอด LED ในการขับแสง (เรียกว่า LED-Backlit) ใช้การเคลือบหน้าจอแบบ Glossy ทำให้เวลาอาจมีแสงสะท้อนบ้าง ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 1,366x768 พิกเซล (อัตราส่วนอยู่ที่ 16:9)

แสงสว่างของหน้าจอ Aspire 5950G ถือว่า "สว่างมาก" เวลาเปิดความสว่างสุดๆ แล้วลองถ่ายรูปด้วยกล้อง Acer Crystal-Eye (กล้องเว็บแคม) ด้านบนของหน้าจอ บอกได้เลยว่า "แจ่ม...แบบไม่ต้องรีทัช" คือ หน้าจะสว่างได้ใจ ออกสไตล์เกาหลีนิดๆ เลยทีเดียว

Keyboard:

ส่วนของแป้นคีย์บอร์ด ก็เป็นส่วนที่ Acer จัดเต็มเช่นกัน เพราะนอกจากจะมีแป้นคีย์บอร์ดมาตรฐานโน้ตบุ๊คแล้ว ยังมีแป้นพิมพ์ตัวเลขอยู่ทางด้านขวามือของผู้ใช้อีกด้วย (ใช้แทนเดสก์ทอปได้สบายๆ)

ตัวแป้นคีย์บอร์ดเป็นแบบ Chiclet ตามสมัยนิยม ความสูงของตัวแป้นไม่มากนัก จากการทดลองพิมพ์งานต่างๆ พบว่า สามารถตอบสนองต่อแรงกดได้ค่อนข้างดี นิ่มนวล และไม่มีเสียงดังระหว่างกดปุ่มมากนัก

อย่างไรก็ตาม ใน Acer Aspire รุ่นนี้ ทาง Acer ไม่ได้เพิ่มปุ่ม "พิเศษ" หรือปุ่มลัดสำหรับเรียกใช้โปรแกรมเฉพาะทางหรือโปรแกรมลิขสิทธิ์ของ Acer มาให้มากนัก เท่าที่เห็นจะมีเฉพาะปุ่ม Acer Arcade Deluxe สำหรับเรียกใช้โปรแกรมจัดการด้านความบันเทิงของ Acer เองเท่านั้น ส่วนทางด้านขวา เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่องตามปกติครับ

Touchpad:

ทัชแพ็ดที่ติดตั้งมาให้ ก็ใช่จะธรรมดาครับ เพราะเป็นทัชแพ็ดที่รองรับเทคโนโลยี Multi-Gesture หรือรองรับการสัมผัสด้วยหลายๆ นิ้วพร้อมกัน ส่วนปุ่มวงกลมที่อยู่บริเวณปุ่มกดสำหรับคลิกซ้าย/ขวา จะเป็นปุ่มสลับไปใช้โหมดพิเศษที่ Acer เรียกว่า Media Console

ในส่วนของโหมด Media Console ที่ว่า ก็คือการแสดงปุ่มควบคุมแบบเสมือนขึ้นบนทัชแพ็ด (เมื่อกดปุ่มวงกลม) ซึ่งส่วนควบคุมที่ว่า จะเป็นปุ่มเรืองแสง อาทิ ปุ่ม Play, ปุ่ม Stop หรือปุ่ม Forward/Backward เป็นต้น เวลาใช้แค่แตะเบาๆ ก็ตอบสนองต่อแรงแตะได้ทันที (จุดนี้คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงไม่เห็นปุ่มควบคุมพิเศษบริเวณแป้นคีย์บอร์ดครับ)

นอกจากนี้ด้านขวาของทัชแพ็ด คุณจะพบกับ Fingerprint Scan หรือระบบสแกนลายนิ้วมือติดมาให้ครับ เท่าที่ลองใช้ดู ก็พบว่ามีความแม่นยำในระดับที่ดี รูดนิ้วทีเดียวก็ผ่านเข้าสู่หน้าเดสก์ทอปได้สบายๆ ไม่ต้องรูดซ้ำหลายรอบ

Speaker:

ชุดลำโพงคู่ของ Aspire 5950G จะถูกจัดตำแหน่งไว้ด้านใต้หน้าจอทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งด้วยการนำเทคโนโลยีขับเสียงมาให้ถึง 2 ระบบ คือ Dolby Home Theater และเทคโนโลยี 5.1 Cinematic Surround ซึ่งเป็นระบบการจำลองเสียงแบบ 5.1 แชนแนล พร้อมกระจายเสียงรอบทิศทาง เข้ามาใช้ ก็ยิ่งทำให้การสังเคราะห์เสียงเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน (ตอนเปิดดูหนังไฮ-เดฟ...ยังนึกว่ากำลังดูในโรงภาพยนตร์กันเลยทีเดียว เสียงที่ได้ยินมีมิติสะใจสุดๆ)

ส่วนใต้หน้าจอที่เป็นแท่งกระบอกนั้น ไม่ใช่เป็นแค่การออกแบบให้สวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะแท่งกระบอกที่ว่า เป็นส่วนที่ Acer ใช้สำหรับการติดตั้งลำโพงเสียงเบส Acer Tuba ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ใน Acer ระดับท็อปๆ มาแล้วหลายรุ่น

กำลังขับเสียงของ Aspire 5950G รุ่นนี้ ต้องบอกว่า "สุดยอด" เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊คทั่วไป เพราะระดับเสียงที่ได้รับ มีมิติที่ค่อนข้างดี เสียงก้องกังวาล แถมเบส Tuba ก็ช่วยให้ความรู้สึกสั่นสะเทือนโสตประสาทได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน

นอกจากนี้หากพลิกไปดูด้านใต้ตัวเครื่อง ก็ยังมีลำโพงซ่อนเอาไว้ 2 ตัวครับ ตัวแรกเป็นตัวขับเสียง ส่วนอีกตัวจะเป็นตัวขับเบส ใครจะเอาไปเปิดเพลงร็อคหรือฮิปฮอปหนักๆ ในงานปาร์ตี้ คงตัดสินใจเลือกซื้อไม่ยากแล้ว

Ports:

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง: จะมีพอร์ต LAN (RJ-45), ช่องระบายความร้อน, พอร์ต VGA, พอร์ต HDMI, พอร์ต eSATA, พอร์ต FireWire, พอร์ต USB 2.0 อีก 1 พอร์ต และพอร์ต USB 3.0 อีก 1 พอร์ตครับ

ด้านขวาของตัวเครื่อง: จะมีช่องเสียบหูฟัง/ไมโครโฟน/ช่องเสียบสายลำโพงแบบออปติคอล, พอร์ต USB 2.0 อีก 1 พอร์ต ส่วนที่เหลือจะเป็นออปติคอลไดรว์ซึ่งรองรับการอ่านแผ่น Blu-ray Disc นะครับ

ด้านหน้าของตัวเครื่อง: ไม่มีพอร์ตใดๆ ติดตั้งไว้ แต่จะมีปุ่มเปิด/ปิดสัญญาณ Wi-Fi รวมถึงไฟแสดงสถานะในการทำงานต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น

ด้านใต้ของตัวเครื่อง: ที่เห็นเป็นวงกลมด้านบน จะเป็นซับวูฟเฟอร์ สำหรับขับเสียงเบสหนักๆ ส่วนการเปิดฝาด้านใต้เครื่อง เพื่ออัพเกรดอุปกรณ์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ และแรมนั้น จะต้องเปิดทั้งแผงขึ้นมา ไม่สามารถแยกเปิดทีละส่วนได้ครับ

Dimension:

น้ำหนัก (รวมแบตเตอรี่): อยู่ที่ประมาณ 3.3 กิโลกรัม (ถือว่าค่อนข้างหนักเอาเรื่อง ถ้าแบกไปไหนมาไหนนานๆ คงต้องไปหาหมอนวดหัวไหล่กันบ้างครับ)