- เครดิต
- 1
- เพื่อน
- ทักทาย
- บล็อก
- อัลบั้ม
- โพสต์
- กระทู้
- แชร์
- สำคัญ
- สิทธิ์อ่าน
- 10
- จำนวนผู้ติดตาม
- จำนวนผู้กำลังติดตาม
- เพศ
- ไม่บอก
|
ด็ก ที่วันๆ เอาแต่เล่นเกมส์ออนไลน์ ไม่อ่านหนังสือเรียน การบ้านก็ไม่ทำ งานบ้านก็ไม่เคยคิดจะหยิบจับช่วยเหลือพ่อแม่ ทานอาหารแล้วไม่รู้จักล้างจานชาม เหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างพฤติกรรมของ "เด็กไม่เอาถ่าน"& J7 a3 } n; b X
2 Q/ K- A5 H5 `7 e4 f
0 u# [8 g* o( M$ {8 Y. V
ทำไมจึงเรียก "เด็กไม่เอาถ่าน" คาดกันว่าคำนี้มีที่มาจากคำเดิม คือ "เหล็กไม่เอาถ่าน" เพราะในสมัยก่อนนั้น การหลอมเหล็กหรือตีอาวุธจากเหล็กให้แข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องใช้ถ่านในการก่อเปลวไฟจนลุกโชน เพื่อให้ความร้อนแก่เหล็ก แล้วถ่านหรือคาร์บอนจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในเนื้อเหล็กหลังจากการถลุง ถ้าเหล็กไม่มีถ่านผสมอยู่เลย เหล็กนั้นจะมีคุณภาพต่ำ ไม่แข็งและเหนียวพอที่จะเรียกว่า เหล็กกล้า แต่หากมีมากเกินไปจะทำให้เหล็กเปราะ เหล็กที่ดีควรมีคาร์บอนเข้าไปผสมอยู่ประมาณ 0.1 - 1.8%
) n& c# C! G6 b
# |7 d1 e' X0 H+ ~1 J* m+ P4 J4 ^" r4 V! K+ B! C- i
ช่าง ตีอาวุธจากเหล็กในสมัยโบราณ จำเป็นต้องคิดค้นหากลวิธี เพื่อขจัดปัญหาดาบหัก เพราะแสดงถึงกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ดีทำให้เหล็กไม่เอาถ่าน จนกลายเป็นคำพูดติดปาก เปรียบเทียบนิสัยคนกับอาวุธว่า "เหล็กไม่เอาถ่าน"- X/ r) d( n9 K* o5 v2 U* I8 \
! b/ b. ~2 f% u4 q/ Z6 h7 @
2 g7 V4 c$ p' z* y! O ' s) v, r. f6 M2 w
9 {6 o2 g: p+ y/ r$ r- _
ขอบคุณข้อมูล : lib.ru.ac.th
/ j9 i# R, J9 e Aที่มา : หนังสือ ภาษาคาใจ ภาค 3 ถอดรหัสภาษาไทยที่ยัง "ค้างคาใจ" เขียนโดย สังคีต จันทนะโพธิ
2 D% X; f7 i3 u
; Z$ D# `9 J% f0 t! s* c1 Nที่มา : pooyingnaka |
|
|
|
|
|
|