- เครดิต
- 60
- เพื่อน
- ทักทาย
- บล็อก
- อัลบั้ม
- โพสต์
- กระทู้
- แชร์
- สำคัญ
- สิทธิ์อ่าน
- 10
- จำนวนผู้ติดตาม
- จำนวนผู้กำลังติดตาม
- เพศ
- ไม่บอก
|
การทำ calibrate แบตเตอรี่
. E* a5 [# a* s3 C( i/ b8 v; K; ~ k( z% w6 j8 w
มีความสงสัยกันมากในหมู่ผู้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเพลง MP3 กล้องถ่ายรูป และอื่นๆ ว่า ทำอย่างไรจึงจะทำให้แบตเตอรี่ชนิดประจุไฟได้ที่มาพร้อมเครื่องมีอายุยืนยาว เพราะเมื่อเสื่อมสภาพแล้วจะซื้อใหม่ราคาช่างเจ็บปวดหัวใจเสียเหลือเกิน: O) m* E* I: @
0 d$ ?& C) D ]
บางคนก็บอกว่า ให้ถอดแบตเตอรี่ออกใช้การเสียบอะแดปเตอร์แทน วิธีการนี้อายุของแบตยิ่งจะไปเร็วเพราะไม่มีการกระตุ้นด้วยการใช้งานเลย บางคนก็บอกว่า เสียบอะแดปเตอร์ไว้ตลอดเวลาจะได้ชาร์ทให้เต็มตลอดเวลา นี่ก็ไม่เหมาะอีกเพราะยังไม่ได้คลายประจุออกมาก็อัดคืนเข้าไปแล้ว แล้วจะทำอย่างไรดี?
! q0 T( M7 m+ V! N4 }4 O2 K) z. j1 M$ M1 S
นี่คือคำตอบ ที่ได้มาจากฝ่ายสนับสนุนฮาร์ดแวร์ของบริษัท แอบเปิ้ล ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac ชื่อดัง และโทรศัพท์ iPhone เครื่องเล่นเพลงอย่าง iPod แนะนำมาอย่างนี้ครับ
) R- [2 u: u% E ~- L+ i" {5 ]6 G8 [ G5 W
การปรับแต่งแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อยืดอายุให้นานวันและมีพลังเพียงพอในการทำงานเสมอ (โดยเฉพาะแบตเตอรี่ยุคใหม่ที่เป็น Lithion) ควรจะทำการ calibrate ตามขั้นตอนดังนี้
Z& K; i6 x) J9 A
7 w. |: |4 `% D 1. เสียบปลั๊กเพาเวอร์อะแดปเตอร์ให้ชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็ม จนกระทั่งไฟแสดงการชาร์ท หรือไอค่อนแสดงการชาร์ทในอุปกรณ์นั้นแสดงว่าเต็ม 100%.
* z$ |* a4 g4 N, r- Y 2. ปล่อยให้มีการชาร์ทต่อไปอีกสัก 2 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างการชาร์ทนี้คุณยังสามารถทำงานกับเครื่องอุปกรณ์ได้ตามปกติ.
; i+ \. r: Z, n3 @. } 3. ถอดปลั๊กเพาเวอร์อะแดปเตอร์ แล้วใช้งานไปตามปกติจนกระทั่งแบตเตอรี่หมด (ถ้าทำงานสำคัญให้หมั่นเซฟงานไว้ด้วย) จนกระทั่งแบตเตอรี่จ่ายไฟจนหมด ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์จะมีกรอบหน้าต่างเตือน หรือเสียงเตือน (ถ้าตั้งค่าไว้) ก็แค่กดปุ่มปิดกรอบแจ้งเตือนนั้น แต่ทำงานต่อไป.# C( Z8 ~0 ^6 O
4. จนกระทั่งแบตเตอรี่หมดจริงๆ และเครื่องเข้าสู่ภาวะหลับ (sleep) อย่าลืมเซฟงานสำคัญไว้ก่อนเมื่อมีการเตือนก่อนที่เครื่องจะหลับไป.4 O2 _1 i1 C+ `9 C1 y; F9 W
5. ปิดเครื่องหรือปล่อยให้มันหลับไป ทิ้งไว้ประมาณ 5 ชั่วโมงหรือมากกว่า ถ้ามีงานต้องทำอาจจะถอดแบตเตอรี่ออกแล้วใช้กำลังไฟจากเพาเวอร์อแด็ปเตอร์แทนได้ (ถ้าเครื่องนั้นทำได้ เพราะมีบางเครื่องถ้าถอดแบตเตอรี่ออกจะเปิดไม่ได้ก็มี กรณีนี้ก็นอนหลับพักผ่อนเถอะ).
8 H: a: \9 L0 z0 D 6. ครบ 5 ชั่วโมงแล้วเชื่อมต่อเพาเวอร์อะแดปเตอร์อีกครั้ง ทำการชาร์ทไฟให้เต็มที่อีกครั้ง แบตเตอรี่ของคุณจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง.7 g- Q. i0 Y- A+ w
4 X" M( Y6 E, [Tip: วิธีการนี้ผมลองทดสอบกับเครื่องโน้ตบุ๊คที่ใช้งานมาประมาณปีเศษ จากที่เคยใช้งานได้นานสามชั่วโมงก็จะเหลือเพียงชั่วโมงเศษๆ แบตเตอรี่ก็หมดประจุแล้ว เลยใช้วิธีการนี้ดูบ้าง ปรากฏว่าทำให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้เกือบสองชั่วโมง เลยทำการ calibrate ซ้ำไปสี่ห้าครั้ง เรื่องไม่น่าเชื่อก็บังเกิด แบตเตอรี่ก้อนนั้นสามารถกลับมาจ่ายประจุได้สามชั่วโมงอีกครั้งหนึ่ง ทดลองดูซิครับ อาจจะไม่ต้องเสียเงินห้าหกพันสำหรับแบตเตอรี่ก้อนใหม่ก็ได้นะครับ
8 B1 F. M& R1 ]9 D- d; e7 B
- z) x# }( j: Z* L. }2 Z2 Y. [4 l" jจะทดลองทำดู....มันก็ไม่เสียหายอะไร มิใช่หรือครับ
a% m4 _$ }$ ?- k& F* r( s/ f7 c1 k( q/ q
****ขอบคุณให้กำลังใจกันหน่อยนะครับ
5 R$ }% q) ]6 j$ S$ E |
|
|
|
|
|
|