- เครดิต
- 5540
- เพื่อน
- ทักทาย
- บล็อก
- อัลบั้ม
- โพสต์
- กระทู้
- แชร์
- สำคัญ
- สิทธิ์อ่าน
- 90
- จำนวนผู้ติดตาม
- จำนวนผู้กำลังติดตาม
- เพศ
- ไม่บอก
|
วิธีการหา Subnet Mask$ u+ i2 l1 P9 U- w1 U+ j- n2 M
2 n' e( U6 [' f: @+ ^- Fsubnet mark คืออะไร เป็นพารามิเตอร์ (Parameter) อีกตัวหนึ่งที่ต้องระบุควบคู่กับหมายเลข IP Address เพื่อทำหน้าที่ช่วยแยกแยะว่าส่วนใดภายในหมายเลข IP Address เป็น Network Address และส่วนใดเป็นหมายเลข Host Address ดังนั้น เมื่อเราระบุ IP Address ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์์ เราจำเป็นต้องระบุ Subnet mask ลงไปด้วยทุกครั้ง โดย Subnet Mask จะประกอบด้วยตัวเลข 4 ตัว ที่คั่นด้วยจุด เช่น 255.255.255.0
; N- _: T; ~0 F6 y# r3 s) D9 C7 `$ M1 H4 I+ x6 V' D
วิธีการที่จะบอกว่าคอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องอยู่ในเครือข่ายวงเดียวกัน (หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คืออยู่ใน subnet เดียวกัน) หรือเปล่า สามารถทำได้โดยเอา Network Mask มา AND กับ IP Address ถ้าได้ค่าตรงกัน แสดงว่าอยู่ใน subnet เดียวกัน ถ้าได้ค่าไม่ตรงกัน ก็แสดงว่าอยู่คนละ subnet
( ?7 o I* M' O" ~4 T' w% h/30 หมายถึง mask 30 bits แรก4 ~( |" N; j0 G. w% R% F
/27 หมายถึง mask 27 bits แรก
) L3 b6 F2 E' c/20 หมายถึง mask 20 bits แรก4 V. u: r& @# b* p0 N# z
ให้ทำการแปลง mask bit ที่กำหนดให้ เป็นค่า Subnet Mask
1 F7 V+ R# t) t, _6 Bวิธีการคือ bits ที่อยู่หน้าตัวmask ให้แทนด้วยเลข 1 bits ที่อยู่หลังให้แทนด้วยเลข 02 Q+ ~. Y# c. Q1 q5 r" ~9 [! |
% V, M( J2 O) E/ O* \, }6 L
Ex /30
" P8 c# I A5 h2 B- m$ m, V/30 > 11111111 . 11111111 . 11111111 . 111111/002 i, A% j F' K8 X- H0 G* Z) f- f
' g; w! ?" \* w) [5 q$ G
. U( `) ]. i% Z, `; Z. ?$ O
6 \) b' _& n; W w6 wจะได้ค่า Subnet Mask
! N' ?- K: R& R; |! \) `/30 > 255.255.255.252
. b3 H( z' _) x% Q! \; f; R5 ^$ Z8 X* x5 E11111111 . 11111111 . 11111111 . 111111/00' h/ b, F8 g) n" e. v8 f0 a
ให้ใช้ตารางช่วยจะทำให้เร็วขึ้น โดย ถ้าเป็น 1 จำนวน 8 ตัวจะได้255( B$ \$ [9 w0 V1 L$ K/ {% J, L
ถ้าเป็น 1 จำนวน 6 ตัวจะคือ 252 หรือจะใช้วิธีนับจาก 24 bits แรกซึ่งเป็น 1 ทั้งหมดอยู่แล้ว นับต่อมาจะได้2 l# J& s: A- R
bits ที่30 เป็น 252 พอดี/ r9 @# e5 S% |2 c
Ex /27
5 ?" d4 ?+ f& h! S& @/27 > 11111111 . 11111111 . 11111111 . 111/00000
8 v T/ @$ V4 I& i! \จะได้ค่า Subnet Mask
1 C4 e6 p- x) C1 Q |$ i* w/ }/27 > 255.255.255.2242 \; e; ^; G* o% p/ L) }1 ^
Ex /20% L5 U: S0 P9 w4 B, M5 s
/20 > 11111111 . 11111111 . 1111/0000 . 00000000
1 \; ~1 l8 N+ r6 u. rจะได้ค่า Subnet Mask
) E" ^( {& s& ?+ ~) |/20 > 255.255.240.0
2 Z+ m5 O# Z2 `ตัวอย่าง Subnet Mask ต่างๆ มีดังนี้
: q$ U% `( y8 N& l" rMask ที่เป็นค่า default ของ IP Class ต่างๆมีดังนี้, }0 H. [, p0 w& N# C
Class A = Mask 8 bits = 255 . 0 . 0 . 0
: w. Q) ]) c2 v* O$ K" C! ~7 FClass B = Mask 16 bits = 255 . 255 . 0 . 0) K5 f, @8 h7 C9 r
Class C = Mask 24 bits = 255 . 255 . 255 . 0' Q& g7 ~" X+ m
Subnet mask ทั่วไป5 [/ d; A" \5 @! R
Mask 10 = 255 . 192 . 0 . 0 Mask 21 = 255 . 255 . 248 . 03 D! p. V. U1 j& _8 l' t A- B
Mask 11 = 255 . 224 . 0 . 0 Mask 22 = 255 . 255 . 252 . 0* k; Y) J! Z& O4 _+ v
Mask 12 = 255 . 240 . 0 . 0 Mask 23 = 255 . 255 . 254 . 0
( @! x" D" E8 @4 B: rMask 13 = 255 . 248 . 0 . 0 Mask 25 = 255 . 255 . 255 . 128
) e5 d2 V; x5 g! e. ]Mask 14 = 255 . 252 . 0 . 0 Mask 26 = 255 . 255 . 255 . 1924 N8 L" @& |- \: z( m6 N* @
Mask 15 = 255 . 254 . 0 . 0 Mask 27 = 255 . 255 . 255 . 2245 A4 o$ [# U5 D9 ?7 f! `1 _
Mask 17 = 255 . 255 . 128 . 0 Mask 28 = 255 . 255 . 255 . 240) i S5 R2 K, L. ~
Mask 18 = 255 . 255 . 192 . 0 Mask 29 = 255 . 255 . 255 . 248
9 [2 \1 ^* n- Q' k5 p+ xMask 19 = 255 . 255 . 224 . 0 Mask 30 = 255 . 255 . 255 . 2523 ]* k; s6 d, D) S: I* Y
Mask 20 = 255 . 255 . 240 . 0 Mask 31 = 255 . 255 . 255 . 2547 Z: |. Y% x! c' |3 }" k; L7 I
0 O5 q- c7 b& Iหมายเหตุ เพื่อให้การแปลงตัวเลขจากเลขฐานสอง เป็นฐานสิบเร็วขึ้นให้ดูจากด้านล่าง เช่นถ้าเป็น เลข 1
% o# h! S: d8 [8 z, o0 j9 {ทั้งหมดจะได้เลข ฐานสิบคือ 255 ถ้าเป็นเลข 1 จำนวน 4 ตัวจะคือ 240 ถ้าเป็นเลข 0 ทั้งหมด จะได้เลข 0
( J7 t" i# s! x2 g* F: r: s( g: E' R4 f7 B; E |
4 B% ?/ r0 P" b& D$ `; J
B4 [2 T/ T8 g, O
หลังจากได้Subnet Mask แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหา Network IP และ Broadcast IP
; ?* Q V( m+ B7 }# w" i4 MNetwork IP คือ IP ตัวแรกของ Subnet ปกติจะเอาไว้ประกาศเรื่องของ Routing จะไม่สามารถนำมา' }; h/ C; X/ f/ Q) L4 ^$ I
Set ให้แก่อุปกรณ์หรือเครื่อง PC ได้% E5 g5 ` j7 X' f" i
Broadcast IP คือ IP ตัวสุดท้ายของ Subnet ปกติจะทำหน้าที่Broadcast ให้อุปกรณ์ที่อยู่ในวงเดียวกัน
( @9 S1 }4 r! g( H4 r+ Cจะไม่สามารถนำมา Set ให้แก่อุปกรณ์หรือเครื่อง PC ได้เช่นกัน3 I( E) k' W/ Y! G* z
Ex.1 192.168.22.50/30
. D- L7 R% Z, |6 I3 t+ } t: dจากโจทย์ /30 เมื่อแปลงเป็น Subnet Mask จะได้255.255.255.252
$ { [6 m7 M. k+ m/ m: }+ Z& d, ^ให้ดูจากที่เขียนไว้ด้านบนนะครับ ถ้าเป็น 1 หมดทั้ง 8 ตัวจะได้255 ( แปลงจากฐานสองเป็นฐานสิบ )
% j3 b$ Y; L7 ~เป็น 1 ทั้งหมด 6 ตัวจะได้252 ดังนั้นจึงได้subnet mask เป็น 255.255.255.252: a* m& F- T5 M$ b' f z
ต่อไป หาว่า จำนวน IP ต่อ Subnet มีจำนวนเท่าไหร่ จากค่า Subnet Mask ที่ให้มา
/ K& e' `7 W- O! pดูที่2 bit ที่เหลือ ที่เป็นอะไรก็ได้นั้น ตัวเลขที่เป็นไปได้หมดคือ 00 , 01 , 10 , 11 มี4 ตัว
' s6 n$ z: W2 E+ K% x. W5 L- z, Nและเมื่อนำ00 , 01 , 10 , 11 แปลงเป็นฐานสิบจะได้7 }* Y" Z& m# K8 D; c% `6 x; G
00 แปลงเป็นฐานสิบจะได้ 0
4 b Z9 u/ x6 h01 แปลงเป็นฐานสิบจะได้ 1
; {2 w9 V1 Q( k- R10 แปลงเป็นฐานสิบจะได้ 20 }4 X' z% `' q1 l s d/ u1 e
11 แปลงเป็นฐานสิบจะได้ 3
3 a0 c6 \) ?5 ^0 p; J4 k; u4 Qสรุปคือ จำนวน IP ต่อ Subnet เมื่อ Subnet Mask คือ 255.255.255.252 คือ 4 ตัว นั่นเอง
$ y3 m5 R h3 x* B4 \2 M$ p; vหรือใช้วิธีลัดดูจากที่เขียนไว้ ตัวเลขที่อยู่บน 252 คือ 4 ตามด้านล่างครับ
* b0 o% O0 P, L, F/ E6 e3 {8 C3 d/ ^- U
g" d% M/ T1 B& T* X0 ]- J2 S' [7 N6 H( j% S1 g
ดังนั้นถ้า /30 จำนวน IP ในแต่ละ subnet ที่จะเป็นไปได้ดูเฉพาะกลุ่มสุดท้าย3 u, m# w. x$ R
คือ 0-3 , 4-7 , 8-11 , _ _ _ , 252-255 หรือเขียนในรูป IPv4 จะได้
{5 ?9 N: W; R9 d) i192.168.22.0 - 192.168.22.3
* C8 s! q! N5 b* i( k192.168.22.4 - 192.168.22.7
/ T( r4 l6 D9 t# @/ ]& n192.168.22.8 - 192.168.22.11
9 h$ ?- R: v5 w2 L-----------
3 n F8 _2 c0 W& b$ j192.168.22.48 - 192.168.22.51$ K9 Z0 ]# Z/ }( Q) g8 A! O" O
---------- D& ] M4 D% X9 t5 X g
192.168.22.252 - 192.168.22.255/ d2 w% ]& h% ]1 A; ~
หมายเหตุ 3 กลุ่มแรกเหมือนเดิมเนื่องจากผลของการ and ระหว่าง bit เนื่องจาก 3 กลุ่มแรกเป็น bit 1" l! v+ C8 R9 S
ทั้งหมดทำการ add กับเลขใดก็จะได้ตัวเดิม 3 กลุ่มแรกจึงได้เลขฐาน 10 ตัวเดิม
8 ~; p0 i0 D' Eโดย IP Address ตัวแรกของแต่ละ subnet จะเรียกว่า Network IP และ IP Address ตัวสุดท้ายของแต่$ X+ M) j3 ]/ q3 y d- {7 f- X0 \
ละ subnet จะเรียกว่า Broadcast IP ดังนั้น
9 x! M* f2 o: v& m. e& C- y$ x5 w }จากโจทย์192.168.22.50/30
9 q! W5 [- c/ t. P0 z: z5 A1. Network IP คือ IP Address อะไร/ V* e1 ~7 r) V% F4 _5 N9 U
ตอบ 192.168.22.482 b+ N3 J: V6 |: G) K
2. Broadcast IP คือ IP Address อะไร
0 D2 h" f# Q, z7 F7 }ตอบ 192.168.22.51
. F3 k d6 I$ t3. Range hosts IP ที่สามารถนำมาใช้งานได้ หรือ จำนวน hosts Per Subnet( G& i1 t. x4 N- t# O# Y0 b1 v! |% s
ตอบ 192.168.22.49 - 192.168.22.50 นำIP มา set เป็น host ได้2 IP" U7 S4 }. B! |
วิธีการหา Network IP นอกเหนือจากการเขียนตามด้านบนแล้วยังหาได้โดย
/ h. w+ M D; x- I Q# h1 j, \วิธีการปกติทำได้โดยการนำเอา Subnet Mask มา AND กับ IP Address ที่ให้มา ผลที่ได้จะเป็น* u: S3 I2 s n: F
Network IP วิธีนี้หนังสือหลายเล่มมีอธิบายแล้ว
3 S+ {- \% a1 A2 sวิธีการหาร นำIP จากโจทย์ที่ให้มา ตั้งหารด้วยจำนวน IP ที่มีได้ใน Subnet เช่น2 N. T, s6 b" O: I l
192.168.22.50/30 ให้นำเอาตัวเลข 50 หารด้วย 4 ดังด้านล่าง
4 R" |$ B% Q5 ?. @/ i$ v) Z0 s6 ~5 }% y6 _$ P) B& j V
- N7 ^: N( u- w% w
+ c7 ?7 a0 }3 `9 T+ L4 T* z+ b$ vเมื่อได้Netwok IP แล้ว ก็จะได้คำตอบเช่นเดียวกับด้านบน เนื่องจากเรารู้อยู่แล้วว่า /30 ใน 1 subnet จะมี6 V" e4 ^) ]2 y1 g
จำนวน IP ทั้งหมด 4 ตัวจากตาราง ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
" L4 T, f" Y) X. \. _7 wEx.2 192 .168.5.33/27 which IP address should be assigned to the PC host ?4 v. K: P! W5 A/ E# ?
A.192.168.5.5
( P$ h6 L: K0 R# o6 ^# P3 H" ^" nB.192.168.5.32, m/ _0 A. B3 H0 m% u, @
C. 192.168.5.40
' \+ [( g+ b( b; ~D. 192.168.5.63
8 c; \# \, a, B" P' WE. 192.168.5.756 x$ c, V3 C1 k% q* l: y c" V
จากโจทย์/27 จะหมายถึง
/ }2 q) _- Z! `3 t& b1 Z1 H* @- C11111111 . 11111111 . 11111111 . 111/XXXX X = mask 27 bit แรก ต้องเป็นเลข 1 ส่วน 5
& X9 |7 i, I# @! ^8 L+ T+ qbit หลัง เป็นอะไรก็ได้5 k4 I2 ~0 E v- l; {
/27 เมื่อแปลงเป็นเลขฐานสิบจะได้255 . 255 . 255 . 224
7 [5 K3 A* [) k! h. M( p
+ {4 W$ N: Z8 Z0 t
1 o- \5 Z- J1 ]- y% A4 ^! a
/ M( i, |: Y# Tหรือจะคิดแบบลัด ตามตาราง ดูบรรทัดที่4 จะหมายถึงผลบวกของ bit ใน 8 bit สุดท้ายครับ 111 ก็คือ7 D1 M$ N, y- s3 {
128+64+32 = 224
9 F# |# `/ r' }; D& G9 ^เมื่อ ได้Subnet Mask แล้ว เราก็จะรู้ว่ามีจำนวน IP ต่อ Subnet เท่ากับ 32 หรือจะดูจากที่เขียนไว้ด้านบน
, l" [' `, o7 {7 r4 R% vของ 224 ก็คือ 32 นั่นเอง* s. v% s" w- l7 g
จากโจทย์192 .168.5.33/27 จะใช้วิธีไหนก็ได้หาตัว Network มาให้ได้ก่อน5 a/ Z4 Y8 K- v
192.168.5.33/27 หมายถึง 192.168.5.32 - 192.168.5.63
; J( q; `) Q2 ]" @; o% x9 N1 cโดย IP ตัวแรกจะเป็น Network IP ( 192.168.5.32 ) และ IP ตัวสุดท้ายจะเป็น Broadcast IP (
1 m1 ?1 O& X" D% I! Z" J8 m192.168.5.63 ) ซึ่งไม่สามารถใช้set ให้แก่PC ได้ ดังนั้นจะเหลือ IP ที่สามารถ Set ให้แก่PC ได้คือ5 m3 ?3 F2 v; T3 _6 L
192.168.5.33 - 192.168.5.62 d! C3 \( [- h% T
คำตอบจึงเป็นข้อ C. 192.168.5.404 B& ]; F+ z% w6 `) e/ X1 z/ {1 }) k
Ex.3 IP 10.10.10.0/13 เป็น IP ที่นำไป set ให้host ได้หรือไม่# E) y0 T2 M0 M" L) t
IP ที่สามารถนำไป set ให้host ได้หรือนำไปใช้งานได้ จะต้องไม่ตรงกับ Network IP หรือ
) ]3 x' _" p; Z+ o5 @$ b, ?Broadcast IP
; e: T; P8 H$ ]4 M8 xวิธีการคิดก่อนอื่นเราต้องทำการแปลง /13 หรือmask 13 bit ให้เป็น subnet mask U$ f% |0 @9 x
11111111 . 11111/XXX . XXXXXXXX . XXXXXXXX = mask 13 bit+ l$ G* e& n% }0 c6 I
แรก ต้องเป็นเลข 1 ส่วน bit ที่เหลือเป็นอะไรก็ได้
" V' k4 U8 _# _8 k; J/13 เมื่อแปลงเป็นเลขฐานสิบจะได้ 255 . 248 . 0 . 0
% Y9 d+ M# M7 D5 w& Dจากโจทย์ เขียนใหม่ได้ดังนี้IP 10.10.10.0 subnet mask 255.248.0.0
- a0 G. j8 S7 l5 `1 tขั้น ต่อไปเราจะมาหาช่วง IP จาก subnet mask ที่หามาได้255.248.0.0
' ]* h. Y7 m t$ ?1 ^หลักที่1 จะมีค่าคงที่คือเลข 10 หลักที่3 และหลักที่4 นั้น ตัวเลขที่เป็นไปได้คือ 0 - 255
+ q" z3 D- `: V3 c6 Nส่วนหลักที่2 นั้น เราต้องมาคำนวณ โดยเว้นไว้ก่อน เขียนช่วง IP จะได้ดังนี้คือ' m6 g4 F" r: r& v
10 . X . 0 . 0 - 10 . X . 255 . 255
" B' O! e! t2 K7 ?- {5 }
: u. x3 D7 x$ Y& p
, \- R M" N1 w* ^1 C' r: o" l# ^3 Z
+ Z1 g$ I% a. U2 g. nถ้า เราพิจารณาเฉพาะ 248 (ดูเฉพาะตัวเลขกลุ่มที่2 ) ถ้าดูจากรูปด้านบน บรรทัดที่3 ซึ่งจะหมายถึง IP ที่มี
7 u7 y9 c H$ \8 ]; Eได้ทั้งหมด ก็คือ 8 ตัว คือ 0-7 , 8-15 , 16- 23 , _ _ _ , 248-255 หรือเขียนเต็มๆจะได้
3 K& Z8 D8 m" O6 u1 ~' g7 L) e) h10 . 0 . 0 . 0 - 10 . 7 . 255 . 255
8 d8 o- p4 t8 y0 U; f% ]10 . 8 . 0 . 0 - 10 . 15 . 255 . 255 ------------> จากโจทย์10.10.10.0 จะอยู่ในช่วงนี้+ \2 |8 F1 }6 h3 N0 P1 _
10 . 16 . 0 . 0 - 10 . 23 . 255 . 255
; j1 v6 F) p7 \1 Y: t0 c------------4 O+ I& w$ r' X4 v
10 . 248 . 0 . 0 - 10 . 255 . 255 . 255$ W. R2 B* J0 w/ Y
จากโจทย 10.10.10.0/13 ก็จะคือ IP ในช่วง 10 .8 . 0 . 0 - 10 . 15 . 255 . 255# ]8 B, Q- t f% ~% {. r
1. Network IP คือ IP Address อะไร
a) r6 Y% Z+ r. K Sตอบ 10 . 8 . 0 . 03 h W4 s- x* Q$ ]
2. Broadcast IP คือ IP Address อะไร
5 x; c/ \; E$ Q) b/ B- H/ oตอบ 10 . 15 . 255 . 255
8 |' J4 L# ^( N3. Range host IP ที่สามารถนำมาใช้งานได้
( e8 ~5 p$ }! e/ Gตอบ 10 . 8 . 0 . 1 - 10 . 15 . 255 . 254 ดังนั้น IP 10.10.10.0/13 จึงนำมาใช้งานได้ถือว่า* c* z$ H* d3 \. V
เป็นHost ตัวนึง3 [8 I3 f2 j9 V2 f1 Q; _
% |0 d* s/ F S0 I8 Q5 {+ d; L7 p
- a+ ]" K$ U- Y& w5 ~4 |) R3 V. i/ iเครดิต http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=139758.0;wap2 |
|