- เครดิต
- 5095
- เพื่อน
- ทักทาย
- บล็อก
- อัลบั้ม
- โพสต์
- กระทู้
- แชร์
- สำคัญ
- สิทธิ์อ่าน
- 200
- จำนวนผู้ติดตาม
- จำนวนผู้กำลังติดตาม
- เพศ
- ไม่บอก
|
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดอีกยุคสมัยหนึ่งของไทยเรา+ b1 J7 O4 L% }7 S
พบว่า มีการตราบทลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดคือ...+ I9 {; p8 K: [
โทษ ประหารชีวิตเอาไว้ในพระไอยการกระบถศึก4 p, ]( M3 _/ y8 U
ซึ่งเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2
& C: l9 M; Z" k/ [3 H6 N% _% {# ?5 ?9 oและมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ2 t$ x( y9 y* v$ r3 C2 J8 f
ก่อนจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้งในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ
1 q" ?6 v0 Q: ~2 B8 n5 E. z+ tแต่กฎหมายฉบับนี้มิได้มีการแก้ไขในบทลงโทษความผิดขั้นประหารชีวิตและวิธี การประหารชีวิตเลยแม้แต่น้อย
3 z: @0 I: k# F* X: p- R6 u* |คือยังคงลักษณะเดิมไว้แต่ครั้งการตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ทุกประการ
5 N6 U& C/ z2 c7 S# x6 [, C' Z7 c- J! Z/ y
& o9 u1 f, B% h) R! H) u
5 u4 K2 Q# u$ \6 fวิธีการประหารชีวิตตามพระไอยการกระบถศึก- p# r( J; A/ v* {+ z# l4 R; V- q
บันทึกและอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดถึงวิธีการลงโทษประหาร 21 วิธีหรือ 21 สถาน ดังนี้
' F f9 T( z' g. I/ g. s
; t0 o5 r" J3 K% F) B2 H% X
" ^0 P' b/ { l% M8 j$ J
- \$ k& {& f& d) \$ \6 x
/ [/ ^2 o. R6 l0 h E- สถาน 1 คือ ให้ต่อยกระบานศีศะ (กบาลศีรษะ) เลิกออก (เปิดออก) เสียแล้ว เอาคีมคีบก้อนเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงไปในมันสะหมอง (มันสมอง) ศีศะพลุ่งฟู่ขึ้นดั่งม่อ (หม้อ) เคี่ยวน้ำส้มพะอูม& L$ t4 x$ L4 w) H7 d
6 b. T2 {( ]3 ~6 p! Y
- สถาน 2 คือ ให้ตัดแต่หนังจำระ (จาก) เบื้องหน้าถึงไพรปากเบื้องบนทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงเกลียวคอชายผมเบื้องหลังเป็นกำหนด (หนังบริเวณคอถึงท้ายทอย) แล้วให้มุ่นกระหมวดผมเข้าทั้งสิ้น (ม้วนเข้าหากัน) เอาท่อนไม้สอดเข้าข้างละคน โยกคลอนสั่นเพิกหนังทั้งผมนั้นออกเสียแล้วเอากรวดทรายหยาบขัดกระบาน ศีศะชำระให้ขาวเหมือนพรรณศรีสังข์: G* O& s4 o: h* e* B3 R
* d; J2 ~6 \2 g0 ]- สถาน 3 คือ ให้เอาขอเกี่ยวปากให้อ้าไว้ แล้วให้ตามประทีบ (ดวงไฟ) ไว้ในปาก ไนยหนึ่ง (นัยหนึ่ง) เอาปากสิวอันคมนั้นแสะแห*ผ่าปากจนหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้าง แล้วเอาขอเกี่ยวให้อ้าปากไว้ให้โลหิตไหลออกเต็มปาก: s4 O6 M0 }' r* p" e
& D- G8 K, t: E5 W% z1 r1 ?- สถาน 4 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันให้ทั่วร่างกายแล้วเอาเพลิงจุด* P/ h3 L# j9 ?% R8 G" i; P
# F d1 X7 n' m( ?- d
- สถาน 5 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันนิ้วทั้งสิบนิ้วแล้วเอาเพลิงจุด
8 x( n& |+ q3 e5 e0 m# Y8 G0 I! Y! z8 X1 b+ G8 g/ M
- สถาน 6 คือ เชือดเนื้อให้เป็นแรงเป็นริ้วอย่าให้ขาดจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงไปถึงข้อเท้าแล้วเอาเชือกผูกจำ ให้เดินเหยียบริ้วเนื้อริ้วหนังแห่งตน ให้ฉุดคร่าตีจำให้เดินไปกว่าจะตาย/ ?2 h1 i7 B1 d5 B
; W4 M/ T9 H5 Y) J- e# `: m! f- สถาน 7 คือ เชือดเนื้อให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร่งเป็นริ้ว ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงเอวและให้เชือดตั้งแต่เอวให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร้ง เป็นริ้วลงมาถึงข้อเท้ากระทำหนังเบื้องบนให้คลุมลงมาเหมือนนุ่งผ้า6 o9 l! L2 s1 t# f/ @( {
3 i# Z. S& S8 \7 j/ d: g
- สถาน 8 คือ ให้เอาห่วงเหล็กสวมข้อศอกทั้งสองข้าง ข้อเข่าทั้งสองข้างให้มั่นแล้วเอาหลักสอดในวงเหล็กแย่งขึงตรึงลงไว้กับแผ่น ดินอย่าให้ไหวตัวได้ แล้วเอาเพลิงรน (ลน) ให้รอบตัวจนกว่าจะตาย
" C4 q6 ]0 T. m* c& h
( U p0 u1 D* [8 O9 V4 q' h" `4 x- สถาน 9 คือ ให้เอาเบ็ดใหญ่ที่มีคมสองข้างเกี่ยวทั่วร่างเพิก (เปิด) หนังเนื้อและเอ็นน้อยใหญ่ให้หลุดขาดออกมาจนกว่าจะตาย9 T. b8 m, M, h/ I
; X$ @) V9 ~$ I- สถาน10 คือ ให้เอามีดที่คมเชือดเนื้อให้ตกออกจากกายแต่ทีละตำลึง(นำเนื้อมาชั่งให้ได้ น้ำหนักหนึ่งตำลึง:มาตราวัดสมัยโบราณ) จนกว่าจะสิ้นมังสา (เนื้อ)
i: o t* ^( m3 q5 t5 A6 X" E9 b5 @! Y8 X3 j' E' L$ c
- สถาน 11 คือ ให้แล่สับทั่วร่างแล้ว เอาแปรงหวีชุบน้ำแสบกรีดครูดขูดเสาะหนังและเนื้อแลเอ็นน้อยใหญ่ให้ลอกออก ให้สิ้นให้อยู่แต่ร่างกระดูก0 K4 L3 C- q% k' b$ R
& e$ Z( R0 [) e+ }0 w/ x
- สถาน 12 คือ ให้นอนลงโดยข้างๆ หนึ่งแล้วให้เอาหลาวเหล็กตอกลงไปโดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดินแล้วจับขาทั้ง สองข้างหมุนเวียนไปดังบุคคลทำบังเวียน (เวียนเทียน)
5 H; l& Y7 p; T3 E; C7 K
2 @1 Z; Y- F) t- F- สถาน 13 คือ ทำมิให้หนังพังหนังขาด แล้วเอาลูกสีลา (ลูกหิน) บดทุกกระดูกให้แหลกย่อย แล้วรวบผมเข้าทั้งสิ้น ยกขึ้นหย่อนลงกระทำให้เนื้อเป็นกองเป็นลอมแล้วพับห่อเนื้อหนังกับทั้งกระดูกนั้นทอดวางไว้ดั่งตั่งอันทำด้วยฟางซึ่งเอาไว้เช็ดเ้ท้า# P8 \+ B' J% m% }' f2 ?
. R9 o& j" T& v, C7 w
- สถาน 14 คือ ให้เคี่ยวน้ำมันให้เดือดพลุ่งพล่าน แล้วลาดสาดลงมาแต่ศีศะ (ศีรษะ) จนกว่าจะตาย
: E3 D$ C% t N* ?9 U5 U8 Y& _- _' @* w3 d- A% I5 v
- สถาน 15 คือ ให้กักขังสุนัขร้ายทั้งหลายไว้ อดอาหารหลายวันให้เต็มอยากแล้วปล่อยให้กัดทึ้งเนื้อหนังกินให้เหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า
$ x5 |7 w+ Y9 X! a
( G, O: J) f; ], n; ]- สถาน 16 คือ ให้เอาขวานผ่าอกทั้งเป็นแหกออกดั่งโครงเนื้อ
' _9 |. q* H7 {" _# }4 C! K% T' c2 A
- สถาน 17 คือ ให้แทงด้วยหอกทีละน้อยๆ จนกว่าจะตาย- v( b- C3 {* V! J
) a* N- @2 w0 t" ^. K" {1 V/ t- สถาน 18 คือ ให้ขุดหลุมฝังเพียงเอว แล้วเอาฟางปกลงคลุมร่างก่อนคลอกด้วยเพลิงพอหนังไหม้แล้วไถด้วยไถเหล็ก ให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่เป็นริ้วน้อยริ้วใหญ่: a( I2 t( V# b' n8 o: l5 m
# a, r6 T3 I9 p9 S8 U- สถาน 19 คือ ให้เชือดเนื้อล่ำออกทอดด้วยน้ำมัน เหมือนทอดขนมให้กินเนื้อตัวเองจนกว่าจะตาย( K9 S4 p- N' X: g/ H' }; s
- m4 m6 \) p% I( K9 F- สถาน 20 คือ ให้ตีด้วยตะบองสั้นตะบองยาวจนกว่าจะตาย% ]( H+ R# V1 E4 `3 R. ^0 t
$ }1 o+ z8 `, F4 p( w" W4 v; P; m
- สถาน 21 คือ ตีด้วยหวายที่มีหนามจนกว่าจะตาย
% g. _, H; }1 q% r; X6 ]& l
: \0 G! D4 P" d4 q8 kน่าเอามาใช้ใหม่
: ?% |4 a4 D+ M1 L
0 R- e) M; N/ y% t9 l1 ~! B+ ?เครดิตเวบ ทอเร้น แห่งหนึ่งครับ |
|
|
|
|
|
|