Discuz Thai

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครสมาชิก

ข้อตกลงการใช้งานกระดานข่าวดิสคัสไทย DiscuzThai Agreement (English Version) ประกาศดิสคัสไทย - ทำเนียบดิสคัสภาษาไทย

Discuz! X3.5 Thai R20240520 Rev.9 (NEW) [วิดีโอช่วยสอน] อัปเกรด Discuz! X3.4 เป็น X3.5 Discord ของ Discuz! Thai Community อย่างเป็นทางการ

Discuz! X3.4 Thai R20220811 (REV.75) สิ้นสุดการสนับสนุน Discuz! X3.4 ภาษาไทยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (ขอแนะนำให้อัปเกรดเป็น X3.5 แทน)

ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ดิสคัสภาษาไทย Discuz Thai
ดู: 6365|ตอบกลับ: 10

[Live Talk] ผู้สร้าง Virus Computer คนแรกของโลก !

    [คัดลอกลิงก์]
StaFF_PiRcH โพสต์ 2011-8-29 21:03:33 |โหมดอ่าน
"ไวรัส" เป็นตัวการสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ทั่วโลก แต่ละปีมีมูลค่าความเสียหายที่เกิดจาก "ไวรัส" นับเป็นจำนวนมหาศาล จนต้องมีการผลิตซอฟต์แวร์ต่อต้านออกมาเป็นทิวแถว แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ใครเป็นผู้สร้างไวรัสคอมพิวเตอร์ให้ออกมาอาละวาดเป็นคนแรกของโลก
9 w5 y: ?7 |0 V& s
1 L! W7 T! {  a6 l0 s; iเมื่อ 25 ปีก่อน "ริชาร์ด สเครนต้า" หรือ "ริช" มีอายุเพียง 15 ปี เรียนอยู่เพียงชั้น ม.3 เขาเป็นผู้สร้างไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นคนแรกของโลก ด้วยความที่อยากแกล้งเพื่อน ไวรัส "เอลก์ โคลนเนอร์ (Elk Cloner)" จึงถือกำเนิดขึ้น
% a' |5 y. @. f+ {" H) U
8 B/ s* E5 p1 @3 Z"สเครนต้า" ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทรับเขียนโปรแกรม "Topix" เล่าให้ฟังว่า สมัยนั้นเขาและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเมาท์เลบานอนซีเนียร์ไฮสคูล ใกล้กับเมืองพิตสเบิร์ก สหรัฐอเมริกา ชอบแลกเกมและซอฟต์แวร์กัน เนื่องจากกฎหมายด้านซอฟต์แวร์ยังไม่เข้มงวด แต่เขาจะชอบเปลี่ยนข้อมูลในฟล็อปดิสก์ให้มีข้อความเยาะเย้ยเพื่อนๆ จนเพื่อนรู้แกวและไม่ชอบใจ หลายคนไม่ขอยืมดิสก์จากเขา7 G% f/ Z- V) I: S" L! L
( y  M+ r: n- ^. U* M) \& y4 H: z# O) y
เมื่อความ แค้นฝังอก เขาใช้เวลาปิดเทอมช่วงฤดูหนาวหาทางตอบโต้ ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ "แอปเปิ้ล II" ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ฮิตมากในยุคนั้น สร้างไวรัสประเภทที่เรียกว่า "บูต เซ็กเตอร์ (boot sector)" ขึ้นมา
7 U9 X$ d, V% t. Q( c# B) g+ Z4 C: _5 p+ G
วิธี การแพร่เชื้อไวรัสประเภทบูต เซ็กเตอร์ คือ พอเริ่มเปิดเครื่องดิสก์ที่ติดเชื้อไวรัสจะเข้าไปแทนที่หน่วยความจำใน คอมพิวเตอร์ เมื่อใดก็ตาม ที่มีผู้นำแผ่นดิสก์สะอาดใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์ และพิมพ์คำว่า "catalog" เพื่อหารายชื่อของไฟล์ ดิสก์ใหม่นั้นก็จะติดไวรัสและเมื่อนำดิสก์ไปให้กับผู้อื่น ไวรัสก็จะติดคอมพิวเตอร์ตัวอื่นๆ เป็นไฟลามทุ่ง จนผู้ใช้คอมพิวเตอร์บางคนที่ไม่เคยพบเคยเจอไวรัส นึกว่า มนุษย์ต่างดาวเข้ามาทำลายระบบคอมพิวเตอร์ เพราะ "เอลก์ โคลนเนอร์" ทำให้ภาพที่จอกลับหัว ตัวอักษรกะพริบ และขึ้นข้อความประหลาดซึ่งเป็นกลอนที่ "สเครนต้า" แต่งขึ้นมาเองว่า "It will get on all your disks; it will infiltrate your chips."
: P; t) r+ O" |- z
* r; ]& p: ?" i+ [- W8 |( Eอย่างไรก็ตาม พิษของ "เอลก์ โคลนเนอร์" ไม่ร้ายแรงนักเทียบกับไวรัสนับแสนหรือเกินล้านตัวไปแล้วในปัจจุบัน เพราะทำให้เพื่อนเพียงแต่รำคาญ
$ y3 T& e' C+ \# C( y9 Y, p, r
. H* R1 x1 L4 {2 \! b& ~7 |จนปี 1986 มีไวรัสที่จ้องเล่นงานระบบของไมโครซอฟต์ขึ้นมา "เบรน (Brain)" เป็นไวรัสที่สร้างขึ้นโดยสองพี่น้องชาวปากีสถาน คือ อัมจัด และ บาสิต ฟารูก เพื่อต้องการลงโทษผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน "เบรน" ไม่ได้สร้างความเสียหายมาก เพียงแต่ขึ้นเบอร์โทรศัพท์ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ของพวกเขาเท่านั้น  Q7 Q$ k/ H: z  F

: C8 N4 H+ X: f1 v1 Gปัจจุบัน ไวรัสแพร่โดยผ่านอีเมล์ เมื่อเปิดอีเมล์ออกอ่าน ไวรัสจะเข้าไปทำลายโปรแกรมรวมทั้งข้อมูลในคอมพิวเตอร์ และส่งอีเมล์บรรจุไวรัสไปยังอีเมลแอดเดรสของผู้อื่นโดยอัตโนมัติ อย่าง ไวรัส "เมลิสซา (Melissa)" เมื่อปี 1999 ไวรัส "เลิฟบั๊ก (Love Bug) เมื่อปี 2000 และ ไวรัส "โซบิ๊ก (SoBig) เมื่อปี 2003 นอกจากนี้ไวรัสยังแพร่ผ่านระบบเครือข่าย ซึ่งทำให้การแพร่กระจายรวดเร็วกว่าการเปิดอีเมล์เสียอีก และยังสามารถขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พาสเวิร์ด เพื่อทำอีเมล์ขยะส่งไปและยากที่จะหาต้นตอ ผู้ที่ชอบเข้าไปเว็บไซต์ลามกยังติดไวรัสได้อย่างง่ายๆ ด้วย; X' q6 ^& ^) J# V1 `
/ R/ n; L2 [. x* F! ]
เดฟ มาร์คัส ผู้จัดการด้านวิจัยของบริษัท McAfee Inc. ผู้ผลิตซอฟต์แวร์กำจัด "มัลแวร์" หรือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยมีเจตนามุ่งร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ เช่น โทรจัน ฟิชชิ่ง สปายแวร์ กล่าวว่า เดี๋ยวนี้มีผู้สร้างมัลแวร์เพิ่มขึ้น วันหนึ่งมีมัลแวร์ใหม่ๆ ราว 150-175 ตัว ขณะที่ 5 ปีที่แล้ว พบมัลแวร์อาทิตย์ละประมาณ 100 ตัว อย่างไรก็ตาม การกำจัดมัลแวร์ไปจนถึงหนอนคอมพิวเตอร์ ไวรัส ได้สร้างรายได้ให้กับบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ต่อต้านถึงปีละ 38,000 ล้านเหรียญ หรือ 1.3 ล้านล้านบาท
  o0 a- |$ c4 Z: Y' v
) u  `0 Z- C  r2 S8 J8 }; F" \) V/ t
* t4 W( d+ K, z% @4 D4 Z/ E
ไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวสำคัญของโลก
) [5 m* g7 S3 o* H6 P( K6 p  z+ @8 |  F
ปี 1982 "เอลก์ โคลนเนอร์ (Elk Cloner)" เป็นไวรัสตัวแรกของโลกที่เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ ทั่วโลก โดยผ่านฟล็อปดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ "แอปเปิ้ล II" และจะขึ้นคำกลอนของ "ริช สเครนต้า"
. E* Q( F  i& O1 N1 l0 L
; h, ~$ P. W3 M6 ^' [ปี 1986 "เบรน (Brain)" เป็นไวรัสตัวแรกที่เข้าไปในระบบ "ดอส" ของไมโครซอฟต์ เป็นฝีมือของสองพี่น้องชาวปากีสถาน ไวรัสจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดเชื้อขึ้นเบอร์โทรศัพท์ร้านซ่อม คอมพิวเตอร์ของพวกเขา
; u* M! z6 V9 P8 B# [+ D# n1 }" O. B+ i9 q' i* m
ปี 1988 "มอร์ริส (Morris)" เป็นหนอนคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการทำสำเนาตัวเองด้วยโค้ดที่ อยู่ในตัวมันเองโดยอิสระ ไม่ต้องรอการเรียกใช้งานจากผู้ใช้ หนอนคอมพิวเตอร์จะทำการแพร่กระจายตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีก เครื่องหนึ่ง โดยอาศัยระบบเครือข่ายที่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและทำความเสียหาย ได้
& ^. {5 E# k* l6 ^2 Q# x6 \
9 e! _0 c! l: O* ~สำหรับ "มอร์ริส" เขียนโดยบุตรชายของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลและเป็นผู้วชาญด้านความ ปลอดภัยคอมพิวเตอร์ และเป็นผู้ที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ทำให้คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยและทหารเสียหายกว่า 6,000 เครื่อง โดยการแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต
3 ^& @( d: a/ v# x4 _% U, ^0 y/ F: G. x& x$ F( ]. \* c9 c
ปี 1999 "เมลิสซา (Melissa)" เป็นไวรัสตัวแรกๆ ที่แพร่ผ่านอีเมล์ เมื่อผู้เปิดอีเมล์ติดเชื้อไวรัส ไวรัสจะก๊อบตัวเองส่งไปยังตามอีเมล์แอดเดรส 50 ที่อยู่แรก ทำให้ไวรัสแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
0 k& H- a4 g. ^% n5 k( L4 q* k( m
6 Y. @' a% q" f7 Fปี 2000 "เลิฟบั๊ก (Love Bug)" แพร่โดยอีเมล์เช่นกัน โดยจะหลอกผู้รับว่าเป็นจดหมายรัก ทำให้ผู้รับรีบเปิดอีเมล์ดูโดยไม่ทันเฉลียวใจว่าถูกหลอก
" R$ V, p( p# v) p6 ^# c+ R
# X% g* h# i4 I2 o' Q3 c' ~2 u. l( j2 Aปี 2001 "โค้ดเรด (Code Red)" เป็น "หนอนเครือข่าย" ตัวแรกๆ ที่เข้าไปทำลายจุดอ่อนของซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ และแพร่ไปยังคอมพิวเตอร์อื่นๆ อย่างรวดเร็ว เพราะแพร่ผ่านโดย "ระบบเครือข่าย" ไม่ต้องรอให้ผู้ใช้เข้ามาเปิดอีเมล์. C1 C' L+ b% d# B9 c3 I

' h/ u$ b, U2 m  U8 B5 r- uปี 2003 "แบลสเตอร์ (Blaster)" ฉวยโอกาสที่รู้จุดอ่อนของซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ และเกิดขึ้นพร้อมๆ กับไวรัส "โซบิ๊ก" ทำให้ทางไมโครซอฟต์ถึงกับเสนอรางวัลให้กับผู้ที่ชี้เบาะแสกับทางการหาตัวและ นำผู้ที่เขียนไวรัสมาลงโทษ
5 A1 B' y! I$ k; G- l$ b2 @3 f  K* D, {. d; u5 `3 k$ a8 G
ปี 2004 "แซสเซอร์ (Sasser)" เด็กวัยรุ่นชาวเยอรมันเป็นผู้เขียนหนอนนี้ แพร่โดยอาศัยช่องโหว่จากระบบปฏิบัติการวินโดว์สของไมโครซอฟต์ ความเสียหายจากแซสเซอร์ มีตั้งแต่ทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลในฮ่องกง ที่ทำการไปรษณีย์หลายแห่งในไต้หวัน สายการบินบริติชแอร์เวย์เลื่อนเที่ยวบินประมาณ 20 เที่ยวบิน

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 5จิตพิศัย +5 ย่อ เหตุผล
topty + 1
cyber2friends + 1 เนื้อหาดีมีสาระ.
troppo + 1 เนื้อหาดีมีสาระ.
granqq + 1 เนื้อหาดีมีสาระ.
Acer_Aspire + 1

ดูบันทึกคะแนน

Acer_Aspire โพสต์ 2011-8-29 21:16:01
ขอบคุณครับได้ความรู้ๆมากๆ
MasterTGZ โพสต์ 2011-8-29 21:18:20
พอจะรู้บ้างแล้วครับ! S8 k  `( a/ c1 _8 H
แต่ก็ขอบคุณครับ ^^" น่าสนใจ อิอิ
9 l8 v9 o& }2 `% Y+ c, a(ใช้คำแบบเดิม เพราะเหมือนเดิมครับ อิอิ)
cyber2friends โพสต์ 2011-8-30 01:08:28
ขอบคุณครับ ชอบแบบนี้จริงๆ ^^
kintaro โพสต์ 2011-8-30 02:28:59
มันนี่เองที่ทำคอมพัง 5555 หลักการตลาดดีๆนี่เอง
ZeroBlack โพสต์ 2011-8-30 11:58:34
ขอบคุณที่ปล่อยไวรัสมาให้พวกเราปวดหัวครับท่านศาสดา
aumlnwtales โพสต์ 2011-8-30 13:16:57
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากกเลยครับ
arafarn12 โพสต์ 2011-8-30 15:32:49
ขอบคุณ สำหรับไวรัส และ แอนตี้ไวรัส license
 เจ้าของ| StaFF_PiRcH โพสต์ 2011-9-1 14:52:59
ก็ต้องทน ๆ กัน ไป 555+
ethai โพสต์ 2011-9-7 16:09:59
อยากสร้างได้บ้าง ฮ่าๆๆๆ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|ดิสคัส ไทย Follow us: Become a fan on facebook. Follow us on Twitter.

GMT+7, 2024-11-16 16:51

Powered by Discuz! X3.4, Rev.66

Copyright © 2001-2021 Tencent Cloud. Licensed

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้